เทคนิคการหางานในแบบฉบับเทพลงมาเกิด

cr.www.alertatwork.com

ผู้หางานเคยสงสัยกันไหมว่าทำไมหางานอย่างไรก็ไม่ประสบความสำเร็จสักทีมันเพราะว่าผู้หางานไม่รู้เทคนิคที่เป็นความลับมานานวันนี้ EveryThingAboutWork จะมาไขความลับนี้เพื่อให้ผู้หางานทุกคนประสบความสำเร็จในการหางาน

เทคนิคในการหางานขั้นเทพ

ลงประวัติส่วนตัวไว้กับเว็บไซค์หางานออนไลน์

ฝากประวัติส่วนตัวไว้กับเว็บไซค์หางานออนไลน์เป็นทางเลือกที่นิยมมากในปัจจุบันเพราะไม่ต้องเสียค่าเดินทางและเสียเวลาไปสมัครงานที่บริษัทด้วยตัวเองแถมยังมีทางเลือกหลายบริษัทอีกด้วยยิ่งถ้าผู้หางานเขียนประวัติให้น่าสนใจแล้วละก็บริษัทต่างๆก็จะเข้ามาดูประวัติเรามากขึ้นซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกในการหางานของเราเข้าไปอีกสะดวกแถมไม่ต้องเสียเวลาจะรอช้าอยู่ทำไมเริ่มต้นกันเลย

ไปเข้าร่วมวันนัดพบแรงงานที่จัดขึ้นทุกปี

วันนัดพบแรงงานเป็นวันที่นายจ้างและลูกจ้างจะได้มาพบปะกันเพื่อให้เกิดการว่าจ้างเกิดขึ้นปีหนึ่งจัดขึ้นหลายครั้งเราสามารถติดตามข่าวการจัดงานได้ที่ www.mol.go.th เป็นเว็บไซค์โดยตรงของตลาดนัดแรงงานผู้หางานสามารถติดตามข่าววันจัดงานได้ที่นี้โดยตรง

พัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับงาน

ทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามแต่เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเป็นข้อที่ทำให้ผู้หางานได้เปรียบคนอื่นในการหางานยิ่งผู้หางานมีทักษะที่ตรงกับสายงานแล้วละก็โอกาสนั้นยิ่งสูงมากขึ้น

ฝึกภาษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองหรือการไปเรียนกับสถาบัน

ภาษาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในปัจจุบันคุณรู้หรือไม่ว่าผู้หางานที่มีทักษะทางภาษาสามารถขอเพิ่มเงินเดือนได้ไม่ยากและความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การทำงานก็จะมากกว่าเพื่อนร่วมงานอีกด้วย

ฝึกการพูดหน้ากระจก

เมื่อผู้หางานได้รับเลือกเข้ามาสัมภาษณ์งานแล้วการฝึกพูดหน้ากระจกก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่ดีทำให้เราเห็นกิริยาท่าทางของผู้หางานระหว่างการพูดเพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพร้อมกับการสัมภาษณ์งาน

ศึกษาเส้นทางไปกลับบริษัท

เป็นเทคนิคที่ดีมากในการทำงานและไปสัมภาษณ์งานเพียงผู้หางานหาเวลาว่างสักวันเพื่อศึกษาเส้นทางในการไปทำงานรถอะไรผ่านที่ทำงานบ้างระยะเวลาที่ใช้จากบ้านไปถึงที่ทำงานค่าเดินทางเป็นต้น

หาความรู้เกี่ยวกับบริษัทที่ผู้หางานตั้งใจจะไปสมัคร

ระหว่างสัมภาษณ์คำถามที่หลายคนคาดไม่ถึงอาจจะเกิดขึ้นเช่นคุณรู้หรือไม่ว่าบริษัทก่อตั้งมากี่ปีแล้วถ้าคุณตอบได้คุณก็จะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการอยากมาทำงานร่วมกับบริษัท

มีแผนสำรองเสมอ

ทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเราสามารถคาดหวังได้แต่ไม่ควรทุ่มหมดทั้งใจเราต้องมีทางเลือกสำรองอยู่เสมอเผื่อเกิดอะไรผิดพลาดเราจะไม่เกิดทางตันและเดินไปไหนต่อไม่ได้

ตั้งใจซะอย่างไม่ว่าทำอะไรก็สำเร็จ

cr.www.a.abcnews.com

ถูกปฎิเสธรับเข้าทำงานคือจุดจบของชีวิตจริงหรือไม่

จบใหม่หางานไม่ได้คือจุดจบของชีวิต!

เด็กจบใหม่หรือคนที่กำลังหางานทำรู้ดีกันอยู่แล้วว่าการหางานไม่ได้นั้นเป็นเรื่องแย่เพราะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันถ้าผู้หางานมีฐานะไม่ได้ร่ำรวย
หรือมีพื้นฐานทางบ้านที่ดีเพราะว่าคนเหล่านี้ถ้าไม่ได้งานทำก็ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินแต่ถ้าคนธรรมดาที่จบมาก็ต้องหางานทำเลยแบบนี้จะลำบากถ้าหางานทำไม่ได้
แล้วมันคือจุดจบของชีวิตจริงหรือไม่? ตอบได้เลยว่าไม่ใช่ความจริงเราเพียงถูกปฎิเสธการหางานที่แรกไม่ได้หมายความว่าเราจะหางานทำไม่ได้อีกเลยยังมีอีกหลาย
บริษัทหลายตำแหน่งหน้าที่ให้เราเลือกหางานขึ้นอยู่กับว่าผู้หางานจะนำประสบการณ์ที่ผิดพลาดจากการหางานครั้งแรกมาเป็นตัวช่วยพัฒนาและหาจุดด้อยในการหางาน
ครั้งใหม่อย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการหางานและเวลาว่างระหว่างการหางานที่ใหม่ควรจะหาประสบการณ์เพื่อเพิ่มความสามารถทำให้ประวัติงานของผู้หางานน่าสนใจ

ท้อได้แต่อย่าถอยการหางานไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องยาก
การทำอะไรก็ตามๆไม่เพียงแต่การหางานเท่านั้นผู้หางานต้องตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถสิ่งใดก็ตามถ้าเราทำอย่างสุดความสามารถแล้ว
ผู้หางานจะไม่เสียใจกับผลที่ตามมาที่หลังไม่ว่าจะดีหรือร้ายเพราะถือว่าเราได้ทำทุกอย่างเต็มที่แล้วในทางกลับกันถ้าเราทำไม่เต็มที่ไม่สุดความสามารถ
แล้วผลที่ออกมาไม่ดีรับรองได้เลยว่าเราต้องเสียใจและผิดหวังอย่างมากเพราะเรากลับมานั่งนึกที่หลังว่าสิ่งที่เราทำลงไปยังทำได้ไม่เต็มที่
เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้แต่ตอนนั้นเราไม่ทำนึกเสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์สู้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตของตัวเองและคนที่เรารักดีกว่า
สิ่งนี้เมื่อมาพูดถึงการหางานก็เสมือนการที่เราหางานครั้งแรกแล้วถูกปฎิเสธหรือไม่ได้รับการติดต่อกลับเพื่อเรียกไปสัมภาษณ์และเราฟูมฟาม
ผิดหวังเสียใจทำไมไม่ได้ทำงานที่ตัวเองต่องการแทนที่เราจะมานั่งเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำไมเราไม่มุ่งมั่นหางานใหม่และใช้ประสบการณ์
จากการหางานครั้งแรกมาเป็นตัวกระตุ้นและเป็นแรงผลักดันให้การหางานครั้งใหม่ประสบความสำเร็จถึงจะผิดหวังอีกเราก็จะไม่ท้อและไม่ถอย

เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมกับการหางานที่ใหม่หลังจากผิดหวัง
1.ทิ้งความผิดหวังและความเสียใจไว้เบื้องหลัง
2.นำความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาเป็นกำลังใจในการหางานใหม่
3.ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
4.พัฒนาทักษะความสามารถเพิ่มเติม
5.ออกไปพักผ่อนข้างนอกเพื่อลดความเครียด
6.ลงประวัติไว้กับเว็บไซค์หางานออนไลน์
7.ติดตามข่าวการจัดงานที่เกี่ยวข้องกับการหางานเช่น วันนัดพบแรงงาน เป็นต้น
8.หางาน Part time ทำระหว่างว่างงาน

เห็นไหมว่าการผิดหวังจากการหางานครั้งแรกนั้นไม่ใช่เรื่องแย่อะไรมากมายมีหลายคนที่ผิดหวังจากการหางานครั้งแรกแล้วหางานครั้งที่สองสามได้แถมยังได้งานที่เหมาะสมกับตัวเองอีกด้วย
เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าบริษัทนั้นจะเลือกเราเข้าทำงานหรือไม่เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่ทำได้คือทำทุกอย่างให้เต็มที่เพื่อที่เราผู้หางานจะได้ไม่มาเสียใจภายหลังหลังจากเราไม่ได้รับเลือกเข้าทำงาน

ท้อได้แต่อย่าถอยเราเป็นคนเกิดมาต้องสู้ให้ถึงที่สุด
cr. www.i.ytimg.com

แนวคิดในการทำงานที่น่าสนใจกับเรื่องนาฬิกาชีวิต

นาฬิกาชีวิตสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน

มนุษย์เราล้วนเกิดมามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกันทุกคนไม่ว่าคุณจะรวยล้นฟ้าหรือจนแทบไม่มีจะกินคุณก็ไม่สามารถ
ออกจากวังวนของนาฬิกาชีวิตนี้ออกไปได้ เกิด>แก่>เจ็บ>ตาย ทุกคนต้องเผชิญสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าช้าหรือเร็วสิ่งที่สำคัญ
ก็คือคุณจะใช้เวลาที่ทุกคนได้รับมาเท่ากันทุกคนไปใช้ในการทำอะไรบ้างสิ่งนี้สำคัญในตอนนี้เราจะมากล่าวถึงวัยที่สำคัญ
ในชีวิตและมีผลต่ออนาคตของเราทุกคนวัยที่สำคัญมีอยู่สองวัยก็คือ วัยเรียนกับวัยทำงาน

วัยเรียน
วัฎจักรในวัยเรียนของทุกคนก็คือ
-สอบเข้าเพื่อให้ได้เรียนโรงเรียนที่อยากเรียน
-ทำเกรดให้ดี
-สอบเข้ามหาลัยวิทยาลัย
-ทำเกรดให้ดีเพื่อจะได้ใช้ในการหางาน
เห็นไหมว่าวัยเรียนไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงคุณก็ต้องผ่านวัฎจักรนี้แน่นอนแต่!ถ้าเราทำเกรดดีไม่ได้ละ เราอาจจะหัวไม่ดีแต่ไม่ได้ขี้เกียจ
แล้วเราจะมีสิทธิ์ยืนในสังคมหรือไม่ถ้าทำเกรดได้ไม่ดีชีวิตเราต้องจบลงเพียงเท่านี้จริงหรือไม่ ไม่เป็นความจริง
ถ้าเรามีความขยันซะอย่างไม่ว่าสิ่งต่างๆที่เราต้องเผชิญในการทำงานนั้นจะยากลำบากแค่ไหนเราก็จะผ่านมันไปได้เด็กที่คิดฆ่าตัวตายเพราะว่าสอบไม่ติดมหาลัยนั้นถือว่าเป็นเด็กที่ไม่ฉลาดเพราะคนฉลาดจริงจะรู้ว่าเรื่องสอบเข้ามหาลัยนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้นอย่าให้เพียงเรื่องสอบได้ไม่ได้มาเป็นตัวตัดสินชีวิตและจบ "นาฬิกาชีวิตของตัวเอง"
วัยทำงาน
ก้าวมาสู่ไว้ทำงานวัยทำงานคือของจริงแตกต่างจากการเรียนโดยสิ้นเชิงปัญหาที่ผู้หางานจะพบในการทำงานไม่สามารถเรียนรู้ได้
จากการเรียนแน่นอน 100 % ต้องอาศัยการเผชิญปัญหาและแก้ไขปัญหาอยู่บ่อยๆเป็นการเก็บประสบการณ์ไปพร้อมกับการ
ทำงานซึ่งหาไม่ได้จากการเรียน
วัฎจักรของการทำงานก็คือ
-หางาน
-สมัครงาน
-สัมภาษณ์งาน
-ทดลองงาน
-ทำงานจริง
-ลาออก
-เกษียณ
ทุกคนที่ก้าวเข้าสู่วัยทำงานต้องพบกับวัฎจักรนี้ช่วงที่ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อที่จะได้งานที่ต้องการจากนั้นก็แข่งขันกันทำผลงาน
เพื่อค่าตอบแทนที่จะได้รับสูงขึ้นหรือตำแหน่งหน้าที่ที่มีหน้ามีตามากขึ้นทุกสิ่งอย่างล้วนทำไปเพราะต้องการผลประโยชน์ แต่!
สิ่งหนึ่งที่คนทำงานไม่ควรลืมก็คือการเข้าร่วมสังคมมนุษย์เป็นสัตว์สังคมเพราะฉะนั้นการทำงานก็เหมือนการใช้ชีวิตนั้นเองทำงาน
เรารักงานที่ทำได้แต่เราไม่ควรรักบริษัทเพราะบริษัทไม่ได้รักเราแน่นอนเพราะว่าบริษัทมองเราเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งที่บริษัท
จ่ายเงินเดือนให้แล้วสามารถใช้งานเราได้เต็มที่ที่สุด "รักงานได้แต่อย่าทุ่มเทเต็มร้อยเก็บเงินไว้เผื่ออนาคตที่เราไม่มีทางรู้ไว้บ้าง"

อยากฝากข้อคิดดีๆไว้ให้คนที่กำลังเรียนและกำลังทำงานได้คิดไว้

"การเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะคนที่ไม่มีต้นทุนชีวิตที่ดีหรือไม่มีโชคช่วยการเรียนหนังสือเหมือนเป็นตัวรับประกันอย่างหนึ่งว่าเราจะมีงานทำมีเงินใช้"

"การทำงานเราอย่าไปคิดว่างานที่เราทำอยู่นั้นจะมั่นคงจริงๆไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกนี้วันนี้เราอาจจะได้เงินเดือนเป็นแสนแต่พรุ่งนี้เราอาจจะตกงานก็ได้ใครจะไปรู้"

นาฬิกาของทุกคนเท่ากันอยู่ที่ว่าจะใช้เวลานั้นไปกับการทำอะไร

cr. www.image.dek-d.com

ข้อคิดดีๆสำหรับคนที่กำลังเรียนและใกล้จะจบเกี่ยวกับการหางาน

เรียนเป็นร้อยวิชาแต่ใช้แค่วิชาเดียวจริงหรือไม่!!!

เราเรียนวิชานี้ไปเพื่ออะไร? เรียนไปก็ไม่ได้ใช้? เรียนก็ไม่รู้เรื่อง? ไม่รู้จะมีสอนไปทำไม? ดึงเกรด? คำถามที่เกิดขึ้นกับเด็กมหาลัยที่กำลังศึกษาอยู่หลายคนที่ต้องเรียนหลากหลายวิชาทั้งๆที่บ้างวิชาก็ไม่จำเป็นต้องเรียนด้วยซ้ำไปเชื่อหรือไม่ว่าคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับเด็กมหาลัยร้อยละ 80% เลยทีเดียวซึ่งเหตุผลที่เราจำเป็นต้องเรียนหลากหลายวิชามันมีเหตุผลของมันอยู่ก็คือสถานศึกษาไม่สามารถทราบได้ว่านักศึกษาจะไปทำงานด้านไหนแล้วแต่ละวิชาที่เรียนก็เป็นวิชาหลักพื้นฐานเท่านั้นซึ่งจำเป็นเพราะรากฐานของวิชาต่อไปซึ่งก็คือวิชาเฉพาะนั้นเองสถานศึกษาจึงจำเป็นต้องจัดตารางวิชาพื้นฐานให้นักศึกษาได้เรียนก่อนที่จะได้ลงไปในวิชาเฉพาะซึ่งวิชาเฉพาะก็จะเป็นวิชาที่สำคัญเพราะมีส่วนที่นำไปใช้ในการทำงานจริง 

แล้วเราจะรู้ได้อย่างว่างานที่เราจะไปหางานต้องใช้วิชาไหนเป็นเฉพาะ
คำตอบของคำถามนี้ก็คือวิชาทุกวิชาที่เราเรียนมาเป็นแค่พื้นฐานในการทำงานเท่านั้นเมื่อต้องทำงานจริงเราก็เสมือนต้อง
เริ่มนับหนึ่งใหม่หรือเรียนใหม่นั้นเองซึ่งอาจจะกินกว่า2-3ปีกว่าเราจะเข้าใจทั้งหมดซึ่งพอถึงจุดนั้นเราก็จะได้ทำงานจริง
วิชาทุกวิชาที่เราเรียนมาล้วนสำคัญเพราะเป็นพื้นฐานนั้นเอง 
"ยิ่งเราพื้นฐานแน่นการต่อยอดความรู้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก"
สิ่งที่ยากที่สุดในการเรียนรู้ก็คือจุดเริ่มต้นนั้นเองเมื่อเราผ่านจุดนั้นมาได้ทุกอย่างหลังจากนั้นก็คือเรื่องกล้วยๆจำไว้เสมอว่า
การหางานไม่ใช่เรื่องน่ากลัวความพยายามและตั้งใจจะพาเราผ่านทุกอุปสรรคปัญหาต่างๆได้สติก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ

เตรียมตัวอย่างไรระหว่างเรียนเพื่อให้จบออกมาไม่ตกงาน
1.ถามตัวเองก่อนว่าใฝ่ฝันอยากทำงานอะไร
2.พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรคปัญหาต่างๆหรือไม่ถ้างานที่เราอยากทำนั้นต้องมีรับผิดชอบสูง
3.ระหว่างการศึกษาต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับงานที่อยากทำนั้นก็สำคัญ
4.ศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองอยู่เสมอทั้งด้านที่เกี่ยวข้องกับการหางานที่ตัวเองอยากทำและความรู้ทั่วไป
5.คิดอยู่เสมอว่าเกรดไม่ใช่ตัววัดว่าเราจะได้เลือกเข้าทำงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้้น


รากฐานที่ดีเป็นสุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
Cr. www.xn--42c8ao1akazf5c2be0gsk.com

ทำงานให้มีความสุขในแบบฉบับคนทำงาน

งานที่น่าเบื่อก็สามารถเป็นงานที่สนุกจริงหรือไม่

ชีวิตคนทำงานกว่าจะมาถึงจุดที่ได้ทำงานก็ต้องเริ่มจากการหางานมาก่อนทุกคนต้องเริ่มจากจุดนี้การหางานการสัมภาษณ์งานการทดลองงานซึ่งเห็นได้เลยว่ากว่าจะบรรลุขั้นตอนการหางานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายต้องผ่านหลายขั้นตอนกว่าจะได้เข้ามาทำงานแล้วอะไรทำให้ผู้หางานหลายคนที่ได้รับเลือกเข้าทำงานแล้วจึงอยากเปลี่ยนงานเหตุผลอันดับต้นเลยก็คือเบื่องานที่ทำอยู่ซึ่งมีผลมาจากหลายสาเหตุทั้ง เพื่อนร่วมงานไม่ดี เจ้านายไม่ได้เรื่อง สภาพแวดล้อมการทำงานห่วยเหตุผลที่ร้ายแรงสุดก็คงเป็นได้รับมอบหมายงานมากแต่ได้รับค่าตอบแทนน้อยนั้นเองทั้งนี้ทั้งนั้นทุกปัญหาก็มีทางแก้ไขเสมอก่อนอื่นเรามาดูกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ผู้หางานเบื่องานที่ทำอยู่และแนวทางการเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อเป็นงานที่สนุกตามแบบฉบับ everythingaboutwork

เพื่อนร่วมงาน

เพื่อนร่วมงานเหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการทำงานเลยก็ว่าได้เพราะเพื่อนร่วมงานก็คือคนในทีมที่เราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันถ้าเกิดคนใดคนหนึ่งขี้เกียจหรือไม่ทำหน้าที่ของตนอาจจะทำให้ทีมแพ้ได้หลายครั้งเราจะเจอกับเพื่อนร่วมงานที่เห็นแก่ตัวหรือเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งถึงแม้ว่าเพื่อนร่วมงานคนนั้นจะได้หน้าหรือการชื่นชมจากเจ้านายแต่ไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยและเพื่อนร่วมงานคนนั้นก็จะไม่มีที่ยืนอีกต่อไป

แนวทางการแก้ปัญหา

อธิบายให้เพื่อนร่วมงานคนนั้นเขาใจถึงปัญหาที่จะตามมาถ้ายังทำพฤติกรรมแบบนี้ต่อไปเพื่อให้เพื่อนร่วมงานเข้าใจถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าไม่สามารถพูดด้วยได้เราจำเป็นต้องใช้การดัดนิสัยโดยการทำให้เพื่อนร่วมงานคนนั้นไม่มีตัวตนซึ่งเป็นวิธีแก้เผ็ดที่ชาวญี่ปุ่นใช้กัน

เจ้านาย

ร้ายยิ่งกว่าร้ายก็คงหนีไม่พ้นเจ้านายจอมบงการคุณจะอยากลาออกจากงานทันทีเมื่อต้องเจอกับเจ้านายที่ดีแต่สั่งงานแต่ทำงานไม่เป็นเมื่อต้องทำงานจริงเอาหน้าจากงานที่ลูกน้องเป็นคนทำโดยที่ตัวเองไม่ทำอะไรสักอย่างมีหน้าที่แค่สั่งอย่างเดียวเจอแบบนี้เข้าไปหลายคนถึงกับเซ็นใบลาออกไม่ทันกันเลยทีเดียวพฤติกรรมแบบนี้มักจะเกิดจากเจ้านายที่ไม่เคยทำงานมาก่อนแต่ไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งนั้นโดยวิธีการชิงผลประโยชน์จากงานคนอื่นซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ต่อเนื่องมาจากเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดีนั้นเอง

แนวทางการแก้ปัญหา

ถ้าพูดถึงการแก้ปัญหาในเรื่องของเจ้านายจอมบงการแล้วละก็เราอาจจะพูดตรงๆกับเขาไปเลยก็ได้เพื่อให้เขารู้จักสำนึกแต่ร้อยละแปดสิบจะไม่ได้ผลเพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำก็คือเมื่อใดที่มีงานเราต้องแจ้งกับผู้ใหญ่ว่าเราขอให้มีผู้ใหญ่มาคุมงานแทนเจ้านายคนนี้เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งผลงานอีกต่อไป

สภาพแวดล้อมที่ทำงาน

ไม่ว่าจะเป็นเสียงรบกวนหรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานนั้นก็ล้วนเป็นปัญหาที่ผู้หางานหลายคนต้องเผชิญอุปกรณ์สำนักงานไม่พอใช้บ้างหรือห้องน้ำในบริษัทไม่สามารถใช้งานได้และไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาสิ่งเหล่านี้ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็สำคัญเพราะผู้หางานที่เข้าไปทำงานไม่ได้ต้องการเข้าไปเป้นทาสรับใช้แต่เพียงเข้าไปทำงานให้บริษัทเดินหน้าดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกก็เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่กระตุ้นให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้น

แนวทางการแก้ปัญหา

เลือกบริษัทที่มีสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงานยกตัวอย่างเช่นบริษัท GOOGLE LINE FACEBOOK จะเห็นได้ว่าบริษัทเหล่านี้ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างมากมีมุมให้พักผ่อนหย่อนใจอยู่ทั่วบริษัทซึ่งสิ่งเหล่านี้บริษัทในไทยไม่ให้ความสำคัญมากนักแต่ก็มีหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนแนวทางในการดึงดูดใจพนักงานเมื่อกับบริษัทต่างชาติแล้วซึ่งเป็นสิ่งดีเแม้จะเล็กน้อยแต่ก็สำคัญสำหรับพนักงานที่ต้องทำงานหนัก

ค่าตอบแทนที่ได้รับ

ปัญหาที่ผู้หางานหลายคนที่ได้ทำงานแล้วทนไม่ได้ก็คือต้องทำงานงานเกินหน้าที่ที่ควรทำแต่ได้รับค่าตอบแทนที่เท่าเดิมซึ่งบริษัทหลายบริษัทคิดว่าจ้างผู้หางานคนนี้มาแล้วต้องทำได้ทุกอย่างแต่บริษัทลืมไปว่าคุณไม่ได้ให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับผู้หางานเลยทำให้เกิดการเบื่องานขึ้นและไม่อยากทำงานอีกต่อไปด้วยความเหนือยล้าและค่าตอบแทนที่ได้รับไม่สอดคล้องรับแรงงานที่ต้องเสียไปเลย

แนวทางการแก้ปัญหา

ก่อนเลือกหางานในแต่บริษัทเราต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนว่าผู้หางานต้องทำหน้าที่อะไรบ้างและค่าตอบแทนที่ได้รับเหมาะสมหรือไม่บางทีผู้หางานต้องการประสบการณ์แต่ไม่คิดมากเรื่องค่าตอบแทนประสบการณ์ที่ได้อาจจะสำคัญกว่าก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงแต่ละบริษัทด้วย

ทำงานต้องทำให้อย่างมีความสุขไม่งั้นเราอย่าทำเลยดีกว่า

cr.www.online.theactkk.net

เปลี่ยนการหางานใหม่เป็นเรื่องกล้วยๆ

หางานใหม่ในแบบฉบับคนมีประสบการณ์ 

เป็นเรื่องปกติที่คนที่ทำงานมานานจะเบื่องานที่ทำอยู่เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆเช่นงานที่ทำอยู่ไม่มีความก้าวหน้าผลตอบแทนที่ได้รับเมื่อเทียบกับงานที่ต้องทำไม่สอดคล้องกันเช่นวิศวกรคนหนึ่งสมัครงานเข้าในบริษัทในตำแหน่งซ่อมบำรุงแทนที่เขาจะได้ทำงานในตำแหน่งซ่อมบำรุงแต่ถูกใช้งานเป็นเซลขายอุปกรณ์ด้วยซึ่งเป็นหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครเขามาแถมเงินที่ได้ก็เท่าเดิมไม่ได้ถูกเพิ่มตามหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มแต่อย่างใดวิธีการแก้ปัญหาก็คือหางานใหม่แต่เราทั้งหลายก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการหางานใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องด้วยอายุที่มากขึ้นบริษัทส่วนใหญ่จะไม่รับคนที่มีอายุมากเนื่องด้วยอายุการทำงานนั้นน้อยไม่คุ้มกับที่บริษัทจะจ้างในระยะยาวเมื่อเทียบกับการจ้างผู้หางานที่มีอายุน้อยหรือเพิ่งจบมาใหม่แต่ผู้หางานที่เปลี่ยนงานก็มีข้อได้เปรียบอยู่อย่างก็คือประสบการณ์ในการทำงานซึ่งเป็นข้อได้เปรียบใหญ่ที่จะเอาไปแข่งกับผู้หางานที่จบใหม่ยกตัวอย่างเช่นบริษัทเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งหนึ่งและลงคุณสมบัติไว้ว่าผู้สมัครต้องมีประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างน้อยกี่ปีก็ตามแต่บริษัทผู้หางานสามารถใช้จุดนี้เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมในการหางานใหม่ได้ที่ทำงานที่แรกจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการทำงานเพราะว่าเราสามารถเก็บสะสมประสบการณ์การทำงานจากจุดนี้เมื่อบริษัทมีให้อบรมหรือจัดสัมมนาใดๆเราก็ควรเข้าร่วมเพื่อเป็นประสบการณ์ในการทำงานไม่ทำงานไปวันๆหรือทำงานอย่างไม่มีจุดหมายซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำงานที่ต้องการความก้าวหน้าไม่ควรทำอย่างยิ่งอีกหนทางหนึ่งในการหางานใหม่สำหรับผู้หางานที่อยากเปลี่ยนงานก็คือลงประวัติกับเว็บไซค์จัดหางานออนไลน์การลงประวัติไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่เรากรอกประวัติที่สำคัญเกี่ยวกับตัวเราและรอให้บริษัทที่สนใจรับพนักงานเข้ามาดูประวัติของผู้หางานเมื่อบริษัทสนใจก็จะติดต่อโดยตรงหาผู้หางานโดยที่ผู้หางานไม่ต้องเดินทางไปสมัครงานที่บริษัทเสียทั้งเวลาและค่าเดินทางการลงประวัติต้องลงกับเว็บไซค์หางานออนไลน์ที่เชื่อถือได้มีระบบคัดกรองตำแหน่งงานป้องกันบริษัทขายตรงเว็บไซค์ที่เชื่อถือได้ที่แนะนำคือ www.jobcity.co.th เป็นเว็บไซค์ที่มีระบบคัดกรอกที่ดีปลอดบริษัทขายตรง

ความก้าวหน้าเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน
cr.www.ljob.ru

การหางานทำในปัจจุบันต้องมีสิ่งที่คนอื่นไม่มี

ทักษะที่ควรมีก่อนการหางานเพื่อให้ได้เปรียบผู้แข่งขันคนอื่น

ในยุคปัจจุบันการทำงานแตกต่างไปจากอดีตอย่างมากมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานเพิ่มมากขึ้นทำให้คนทำงานและคนหางานในยุคปัจจุบันต้องมีความรู้ที่นอกเหนือจากการทำงานและการหางานปกติแล้วก็ต้องรู้จักการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการทำงานและการหางานในด้านการหางานก็เช่นการลงประวัติกับเว็บจัดหางานออนไลน์ซึ่งด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและการหางานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรวมทั้งช่วยให้ค้นหาสิ่งที่ผู้หางานอยากรู้ได้ง่ายขึ้นทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้หางานจะนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ยังไงเท่านั้นเองทำไมคนทำงานและผู้หางานในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องเรียนรู้เทคโนโลยีเพิ่มเติมเพราะว่ามันมีส่วนช่วยให้การทำงานที่เคยยุ่งยากในอดีตกลายเป็นของง่ายการทำงานในยุคปัจจุบันยังจำเป็นต้องทักษะหลายๆด้านเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องนี้ยังรวมไปถึงการหางานด้วยซึ่งในวันนี้เราจะมานำเสนอทักษะในการทำงานที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบันอีกทั้งทักษะเหล่านี้จะช่วยให้เราหางานได้ง่ายขึ้นเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงานมากขึ้นด้วย

ทักษะด้านคอมพิวเตอร์
โปรแกรมในการทำงานพื้นฐานที่ผู้หางานและคนทำงานจำเป็นต้องเรียนรู้คือ Word Excel Powerpoint รวมทั้งโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับสายงานเฉพาะเช่น Autocad Photoshop เป็นต้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการส่งอีเมล์เพราะคนทำงานและผู้หางานจำเป็นต้องใช้มันส่งงานให้ลูกค้าหรือส่งใบสมัครออนไลน์เมื่อไม่ได้อยู่ที่บริษัทหรือไม่สะดวกที่จะไปสมัครงานด้วยตัวเองสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่คนทำงานและผู้หางานในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องเรียนรู้

ทักษะด้านภาษา
ในปัจจุบันเรากำลังเข้าสู่ AECในอีกไม่ช้าสิ่งสำคัญที่ผู้หางานและคนทำงานจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้อันดับแรกเลยคือภาษาอังกฤษเพราะว่าเมื่อคนทำงานไปทำงานกับประเทศอื่นภาษากลางที่เขาใช้กันคือภาษาอังกฤษและบางบริษัทจะรับผู้หางานที่มีความรู้ด้านภาษาเป็นพิเศษอีกด้วยเราสามารถขอเงินเดือนเพิ่มได้จากความสามารถตรงจุดนี้ถ้าผู้หางานและคนทำงานยังไม่เริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้อีกหน่อยเมื่อเข้าสู่ AEC ผู้หางานและคนทำงานก็จะถูกแย่งตำแหน่งงานอย่างแน่ๆเพราะประเทศอื่นๆนั้นก้าวหน้าเรื่องภาษามากกว่าประเทศของเรามาก

ทักษะในการแก้ไขปัญหา
ในการทำงานผู้หางานและคนทำงานจะต้องเจอปัญหาทุกวันผู้หางานและคนทำงานต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาอยู่เสมอเมื่อปัญหาเข้ามาเราต้องรู้วิธีจัดการกับปัญหาไม่ใช่วิ่งหนีปัญหาเพราะนั่นไม่ใช่ทางออกสำหรับการแก้ปัญหาอย่างแน่นอนๆเมื่อผู้หางานและคนทำงานแก้ปัญหาได้ครั้งต่อไปผู้หางานและคนทำงานก็จะผิดพลาดน้อยลงเพราะเคยเผชิญกับปัญหาเหล่านี้มาก่อนแล้ว

ทักษะในการดูแลรักษาอุปกรณ์ในการทำงาน
เมื่อผู้หางานและคนทำงานทำงานไปเรื่อยๆก็จะเกิดปัญหากับอุปกรณ์ทำงานถ้าผู้หางานและคนทำงานเรียนรู้วิธีในการแก้ปัญหาเบื้องต้นได้การทำงานของผู้หางานและคนทำงานก็จะไม่ติดขัดและสามารถแก้ปัญหาได้เองโดยไม่จำเป็นต้องรอฝ่ายซ่อมบำรุงและไม่ต้องเสียเวลาในการทำงานอันมีค่าของผู้หางานและคนทำงานไปกับปัญหาที่ผู้หางานและคนทำงานสามารถแก้ไขได้เองถือว่าเป็นทักษะที่หลายคนมองข้ามอีกข้อหนึ่ง

ทักษะด้านทรัพยากรมนุษย์
เมื่อผู้หางานและคนทำงานทำงานนานๆผู้หางานและคนทำงานก็มีโอกาสจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเมื่อผู้หางานและคนทำงานได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นหน้าที่รับผิดชอบของผู้หางานและคนทำงานก็มากขึ้นโดยเฉพาะการจัดการบุคคลซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายผู้หางานและคนทำงานจำเป็นต้องเข้าฝึกอบรมหรือศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้การทำงานทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและงานเดินต่อไปได้จากการบริหารลูกน้องของผู้หางานและคนทำงาน

ทักษะพิเศษ
ยกตัวอย่างเช่นการทำงานในสายวิศวกรรมก็จะมีความรู้เฉพาะด้านของแต่ละสายสายความร้อนก็ต้องมีความรู้พิเศษในเรื่องที่เกี่ยวข้องสายเครื่องจักรก็ต้องรู้วิธีการทำงานของแต่ละส่วนประกอบลักษณะการทำงานเป็นต้นสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเรียนรู้ได้จากห้องเรียนเกิดจากการสะสมประสบการณ์จากการทำงาน

ทักษะด้านการเงิน
การบริหารจัดการการเงินเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าสิ่งใดเพราะเมื่อผู้หางานและคนทำงานสามารถจัดการการเงินได้ผู้หางานและคนทำงานก็สามารถประหยัดงบในการสูญเสียในสิ่งที่ไม่จำเป็นไปได้โดยช่วยบริษัทให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเช่นการปิดไฟเมื่อไม่ใช่ใช้น้ำอย่างประหยัดปิดอุปกรณ์สำนักงานที่ไม่จำเป็นเมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นต้น

ทักษะในการจัดการข้อมูล
เมื่อผู้หางานและคนทำงานทำงานไปเรื่อยๆผู้หางานและคนทำงานก็จะสับสนกับงานแต่ละงานผู้หางานและคนทำงานควรเรียนรู้วิธีการจัดการความคิดและข้อมูลให้เป็นระบบและระเบียบเพื่อให้ง่ายต่อการนำมาใช้ในภายหลังเช่นการเก็บไฟล์ข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ควรจัดให้หมวดหมู่ให้เป็นระเบียบเพื่อง่ายต่อการใช้งานหรือการจัดเก็บเอกสารให้อยู่ถูกที่และหาได้ง่าย

ทักษะในการบริหาร
ทักษะนี้จำเป็นมากๆสำหรับผู้หางานและคนทำงานที่เป็นหัวหน้าเพราะถ้าผู้หางานและคนทำงานสามารถบริหารได้ดีบริษัทก็สามารถเดินต่อไปได้โดยไม่สะดุดทักษะนี้บางคนมีมาตั้งแต่เกิดแต่สำหรับคนที่ไม่มีนี้ก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากการทำงานซึ่งประสบการณ์นั้นสอนกันไม่ได้

ประสบการณ์เป็นเรื่องที่สอนกันไม่ได้เกิดจากการเรียนรู้การฝึกฝน
cr.www.synaptic.co.th

ทำอย่างไรดีเมื่อเราถูกปฎิเสธการหางาน

ไม่ใช่ทุกคนที่หางานแล้วจะได้งานดั่งที่หวัง

การหางานไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จเสมอไปต้องมีทั้งผู้หางานที่สมหวังและผู้หางานที่ผิดหวังอย่างแน่นอนขึ้นอยู่กับว่าผู้หางานจะสามารถผ่านมันไปยังไงจะหมดหวังและไม่หางานต่อหรือจะเอาข้อผิดพลาดที่ผ่านมานำมาเป็นตัวช่วยผลักดันในการหางานใหม่ซึ่งงานใหม่อาจจะเหมาะสมกับผู้หางานมากกว่างานที่ผิดหวังมาด้วยซ้ำไปแล้วผู้หางานจะทำอย่างไรเพื่อก้าวผ่านความผิดหวังในการหางานเพื่อจะเริ่มต้นหางานใหม่ที่มีประสบการณ์การหางานที่ผ่านมาเป็นแรงผลักดันให้หางานงานใหม่ได้สำเร็จตามที่คาดหวังมีอยู่4ขั้นตอน


กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญเสมอไม่ว่าผู้หางานจะท้อมากแค่ไหน
ไม่ว่าผู้หางานจะผิดหวังจะเสียใจมากแค่ไหนถ้าผู้หางานยังมีกำลังใจอยู่ผู้หางานก็สามารถต่อสู้หรือผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ผู้หางานไม่สูญเสียกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นเช่นผู้หางานผิดหวังจากการหางานที่บริษัท A ผู้หางานต้องไม่ท้อถอยผู้หางานต้องมีกำลังใจและคิดว่ายังมีบริษัท B C D รอผู้หางานอยู่ไม่แน่บริษัท B C D อาจจะเหมาะสมกับผู้หางานมากกว่าบริษัท A ด้วยซ้ำไปแถมถ้าผู้หางานสามารถทำงานกับกับบริษัท B C D ได้ดีไม่แน่เราอาจจะก้าวหน้าไกลกว่าอยู่กับบริษัท A ที่เราคาดหวังตอนแรกด้วยซ้ำไปเป็นต้น

ทบทวนสิ่งที่ผู้หางานผิดพลาด
เมื่อผู้หางานผิดหวังในการหางานไม่ควรเสียเวลาไปกับการโทษตัวเองหรือโชคชะตาที่ทำให้ผู้หางานไม่ได้เข้าทำงานในบริษัทตามที่หวังไว้แต่ผู้หางานควรกลับมาพิจารณาตัวเองว่าผู้หางานทำอะไรผิดพลาดตรงไหนเพื่อให้ในการหางานครั้งต่อไปไม่พลาดหรือผิดหวังเหมือนครั้งแรกบทเรียนสอนให้เรารู้จักแก้ไขไม่ใช่ทำให้ผู้หางานท้อแท้ยิ่งผู้หางานผิดพลาดบ่อยเท่าไรผู้หางานก็จะยิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้นต่อไปเราก็จะไม่รู้จักคำว่าผิดพลาดอีกต่อไป

ใช้เวลาว่างในการเพิ่มทักษะความสามารถให้กับตัวเอง
ทำไมผู้หางานถึงไม่ได้รับเลือกเข้าทำงานเหตุผลส่วนใหญ่มาจากความรู้ความสามารถของผู้หางานไม่โดนตาโดนใจผู้คัดเลือกหรือความรู้ความสามารถของเรานั้นไม่เพียงพอที่จะทำงานผู้หางานผิดหวังผู้หางานก็ควรหาความรู้ในด้านที่ผู้หางานไม่รู้เพิ่มเติมเพื่อให้ครั้งหน้าเราจะสามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้การพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสในการหางานแล้วยังสามารถเพิ่มความก้าวหน้าในอาชีพการทำงานอีกด้วยในการหางานผู้หางานจะสามารถแข่งขันไม่แพ้คนอื่นอีกต่อไปผู้หางานต้องรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์หาความรู้เพิ่มเติมความสามารถพิเศษที่จำเป็นต่อการทำงานเป็นต้น

กระตือรือร้นในการทำกิจกรรมต่างๆ
เมื่อผู้หางานทำอะไรก็ตามความกระตือรือร้นจะเป็นตัวบอกให้คนอื่นทราบว่าผู้หางานพร้อมจะทำงานมากแค่ไหนเมื่อผู้หางานถูกสัมภาษณ์งานผู้หางานก็ต้องแสดงออกถึงความกระตือรือร้นของตัวเองให้ผู้สัมภาษณ์เห็นให้เห็นว่าผู้หางานพร้อมที่จะทำงานมากแค่ไหนไม่ใช่ถูกสัมภาษณ์ก็ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวตอบคำถามอะไรก็ไม่ได้โอกาสที่จะได้รับเลือกเข้าทำงานก็ยิ่งน้อยลงตามเท่านั้นกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่างๆให้มากๆแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าเราสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอเพื่อนำไปใช้พัฒนาองค์กรต่อไป

ผิดพลาดได้แต่อย่ายอมแพ้

cr. www.crayon.in.th

คำถามยอดนิยมในการหางาน

บริษัทสัมภาษณ์คนหางานด้วยคำถามยอดนิยม

ก่อนที่ผู้หางานจะได้รับเลือกเข้าทำงานก็ต้องมีการผ่านการสัมภาษณ์งานก่อนขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นด่านสุดท้ายก่อนที่ผู้หางานจะได้รับเลือกเข้าทำงานดังนั้นผู้หางานควรให้ความสำคัญกับการตอบคำถามที่ผู้สัมภาษณ์ถามผู้หางานมาด้วยคำถามที่เป็นที่นิยมส่วนใหญ่มีอยู่ไม่กี่ข้อที่เหลือก็เป็นคำถามพิเศษเฉพาะทางของสายอาชีพนั้นๆในวันนี้คำถามที่เป็นที่นิยมของเกือบทุกบริษัทจะถูกเผยแพร่เพื่อให้ผู้หางานเตรียมพร้อมที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดและสมเหตุสมผลมากที่สุดมีต่อไปนี้

ทำไมคุณต้องการที่จะทำงานในตำแหน่งนี้
ผู้หางานควรตอบว่าเป็นงานที่มีความก้าวหน้าและตรงกับสิ่งที่ได้เรียนมาเป็นงานที่ใฝ่ฝันมานานบริษัทมั่นคงและได้ยินมาว่าบริษัทนี้มีชื่อเสียงในสายงานนี้หรือผู้หางานอยากทำงานในธุรกิจเล็กๆและอบอุ่นเป็นกันเองมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้งานมากขึ้น

คุณเคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่
ผู้หางานเคยมีประสบการณ์หรือไม่ให้ผู้หางานตอบตามความเป็นจริงหากผู้หางานเคยมีประสบการณ์มาก่อนก็จะทำให้ผู้หางานได้เปรียบผู้สมัครคนอื่นๆเพราะว่าบริษัทต้องการคนที่มีประสบการณ์มาก่อนอยู่แล้วเพราะไม่จำเป็นต้องเสียทรัพยากรบุคคลและค่าใช้จ่ายในการเทรนงานให้ผู้หางานใหม่ส่วนถ้าผู้หางานไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนผู้หางานก็ไม่ควรโกหกและบอกผู้สัมภาษณ์ไปว่าผู้หางานพร้อมที่จะเรียนรู้งานและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆก็ตามที่เข้ามาพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อนำมาใช้พัฒนาองค์กร

คุณมีความสามารพิเศษอะไรบ้าง
ความสามารถที่ผู้หางานมีคืออะไรก็ให้ตอบไปตามความจริงเช่นความสามารถด้านคอมพิวเตอร์การใช้โปรแกรมต่างๆเพราะถ้าผู้หางานไม่บอกและถ้าต้องนำไปใช้งานก็จะไม่มีใครสอนผู้หางานเพราะบริษัทไม่รู้ว่าผู้หางานไม่มีความสามารถด้านนี้เพราะฉะนั้นการบอกความจริงจึงเป็นเรื่องดีที่สุดเพื่อให้บริษัทหาคนมาสอนผู้หางานและความสามารถด้านภาษาก็เหมือนกันความสามารถนี้มีส่วนช่วยให้เงินเดือนผู้หางานขยับขึ้นอย่างแน่นอนถ้าผู้หางานอยากได้เงินเพิ่มขึ้นให้เราฝึกฝนภาษาอยู่อย่างสม่ำเสมอเพราะมีประโยชน์ในการหางานอย่างแน่นอนช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานและเพิ่มเงินเดือนสูง

ทำไมถึงเปลี่ยนงานหรือออกจากงานเก่า
ไม่ควรพูดถึงที่ทำงานเก่าเสียๆหายๆเพราะผู้หางานจะถูกมองในแง่ลบจากผู้สัมภาษณ์ควรหาเหตุผลที่เหมาะสมที่สุดแม้ว่าความจริงอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นผู้หางานก็ต้องพูดให้นุ่มนวลเพื่อไม่ให้เป็นการตำหนิที่ทำงานเก่าและจะทำให้ผู้หางานดูไม่ดีควรจะตอบว่าอยากออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆหรือต้องความก้าวหน้าในอาชีพการทำงาน

จบไม่ตรงสายงานจะทำอย่างไร
ผู้หางานก็ต้องยอมรับว่าถ้าผู้หางานจบมาไม่ตรงกับสายงานอาจจะทำให้โอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงานนั้นน้อยลงแต่ถ้าผู้หางานมีความต้องการจะทำงานในสายนี้จริงๆผู้หางานก็ควรหาความรู้เพิ่มเติมหรือศึกษาเพิ่มเติมและอธิบายเหตุผลที่แท้จริงให้กับผู้สัมภาษณ์ฟังเผลอๆผู้หางานอาจจะได้รับเลือกเข้าทำงานก็เป็นได้ถ้าผู้หางานแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงาน

ต้องการรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเพิ่มเติมหรือไม่
ผู้หางานควรถามในสิ่งที่เราอยากรู้เช่นวัฒนธรรมขององค์กรเป็นอย่างไรบรรยากาศในการทำงานเป็นอย่างไรควรถามให้พอดีไม่มากจนเกินไปเพราะถ้ามากเกินไปจะทำให้ผู้หางานดูเป็นคนที่เรื่องมากหรือสอดรู้สอดเห็นและไม่ควรไม่ถามเพราะว่าจะทำให้ผู้หางานดูไม่ต้องการหรือไม่สนใจที่จะทำงานกับบริษัทสรุปง่ายๆคือถามพอเป็นพิธีหรือถามในเรื่องที่จำเป็นต้องรู้เท่านั้น

ต้องการเงินเดือนเท่าไหร่
เป็นคำถามยอดฮิตในการหางานเลยก็ได้เพราะว่าบริษัทส่วนใหญ่ไม่นิยมลงเงินเดือนหรือค่าจ้างไว้ในการประกาศหางานผู้หางานจึงต้องศึกษาว่าสายงานนี้เงินเดือนขั้นต่ำนั้นเท่าไรและผู้หางานจะเรียกสูงกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้หางานด้วยเพราะยิ่งผู้หางานเรียกเงินเดือนสูงหน้าที่รับผิดชอบผู้หางานก็จะมากขึ้นตามด้วยและผู้หางานต้องมั่นใจอีกว่าผู้หางานมีความสามารถพอที่จะทำงานในตำแหน่งนั้นๆผู้หางานต้องไม่ลืมในข้อนี้และผู้หางานต้องรู้ตัวเองด้วยว่าตัวเองต้องการเงินเดือนเท่าไหร่กันแน่เมื่อผู้หางานไม่เข้าใจคำถามผู้หางานก็ควรบอกผู้สัมภาษณ์ไปตรงๆว่าให้ทวนคำถามอีกครั้งและหลังจากที่สัมภาษณ์งานเสร็จแล้วผู้หางานก็ควรติดตามข่าวว่าผู้หางานได้รับเลือกเข้าทำงานหรือไม่หรือรอบริษัทติดต่อกลับมา

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น
cr.www.online.theactkk.net

พัฒนาตัวเองให้พร้อมก่อนออกไปหางาน

คุณพร้อมหรือยังกับการหางานในยุคปัจจุบัน

การคัดเลือกคนหางานเข้าทำงานนั้นปัจจุบันมีท่าทางว่าจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆเพราะว่าการที่บริษัทจะจ้างคนหางานเข้ามาเป็นพนักงานเข้ามาทำงานคนหนึ่งต้องประเมินถึงความสามารถที่จะได้รับจากพนักงานคนนั้นว่าคุ้มกับค่าจ้างที่จ่ายไปหรือไม่อย่างไรถ้าเลือกคนที่เก่งและทำงานคุ้มกับเงินเดือนแสดงว่าบริษัทได้กำไรแต่ถ้าได้คนไม่เก่งและทำงานไม่คุ้มกับเงินเดือนก็คือขาดทุนสิ่งเหล่านั้นมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้องค์กรก้าวหน้าเพราะกลายเป็นว่าบริษัทเสียรายจ่ายที่จ่ายให้กับคนหางานคนนั้นเพื่อเข้ามาเป็นพนักงานและคนหางานคนนั้นยังเข้ามาทำให้ระบบการทำงานเสียอีกด้วยซึ่งกลายเป็นผลกระทบระยะยาวต่อไปสิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทจะคัดเลือกคนหางานเข้ามาทำงานสักคนจึงมีขั้นตอนมากมายเพราะบริษัทต้องการคัดคนหางานที่ดีที่สุดเข้ามาทำงานให้กับบริษัทในบทความนี้เราจะมาบอกเทคนิคในการพัฒนาการหางานเพื่อให้มีศักยภาพในการไปแข่งขันในตลาดแรงงานในปัจจุบันได้มีดังต่อไปนี้

ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวกับงานที่ผู้หางานสนใจจะเข้าไปสมัคร
เพื่อให้ผู้หางานทันสมัยอยู่ตลอดเวลาความรู้เหล่านี้นอกจากจะเป็นความรู้รอบตัวแล้วยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการสัมภาษณ์งานหรือหางานได้อีกด้วยอีกทั้งยังสามารถนำมาใช้พัฒนาผู้หางานว่าควรต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหางานและทำงานให้ดีขึ้นอีกด้วยเช่นผู้หางานดูข่าวเกี่ยวกับAECข่าวบอกว่าถ้าผู้หางานรู้ภาษาที่ใช้ในAECมากเท่าไหร่ผู้หางานก็จะมีโอกาสได้งานเพิ่มมากขึ้นดังนั้นผู้หางานก็ควรไปศึกษาภาษาเพิ่มเติมไม่ใช่เพียงแต่ภาษาอังกฤษเพราะในปัจจุบันภาษาที่สามก็มีความจำเป็นไม่แพ้ภาษาที่สองเพื่อให้ผู้หางานมีศักยภาพที่จะแข่งขันกับผู้หางานคนอื่นได้ไม่ใช่เพียงแต่ในประเทศรวมทั้งประเทศอื่นๆด้วยโดยเฉพาะประเทศในแถบAEC

อ่านคู่มือหางานตามร้านหนังสือ
อ่านหนังสือสำหรับผู้สัมภาษณ์งานไม่ใช่สำหรับผู้หางานเพราะว่าเราจะได้เตรียมพร้อมสำหรับคำถามที่ผู้หางานจะได้รับและเตรียมคำตอบที่ดีที่สุดไว้เพื่อตอบและให้ผู้สัมภาษณ์สนใจในตัวผู้หางานมากที่สุดผู้หางานควรอ่านให้ละเอียดและจดบันทึกโน๊ตเอาไว้และควรอ่านหนังสือสำหรับผู้สัมภาษณ์ประกอบกันไปด้วยเพื่อให้ผู้หางานเข้าใจเหตุและผลที่ถูกต้องดั่งสุภาษิตที่ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ลงประวัติบนเว็บไซค์หางานออนไลน์
ถ้าผู้หางานมัวแต่นั่งเฉยๆรองานเข้ามาหาตัวผู้หางานคงไม่มีทางเป็นไปได้ดังนั้นผู้หางานก็ลงประวัติส่วนตัวหรือลงประกาศหางานในเว็บไซต์หางานออนไลน์ต่างๆถ้าบริษัทไหนสนใจก็จะติดต่อมาตามที่อยู่หรือเบอร์โทรที่ผู้หางานให้ไว้ซึ่งเป็นตัวช่วยในการหางานที่ดีกว่าการออกไปหางานด้วยตัวเองด้วยซ้ำไม่ต้องเสียเวลาและค่าเดินทางแถมยังต้องผิดหวังถ้ารู้ว่าบริษัทนั้นบริษัทขายตรงหรือหลอกให้คนลงธุรกิจรวมด้วยแล้วไม่ยอมจ่ายเงินให้สมาชิก

หางาน Past timeในระหว่างรอการตอบรับจากบริษัท
ผู้หางานที่จบมาใหม่จะท้อแท้กับการหางานอย่างมากเพราะผู้หางานไม่มีประสบการณ์ในการทำงานโอกาสที่จะได้รับเลือกเข้าทำงานก็จะมีน้อยมากแต่ระหว่างที่ผู้หางานรอการตอบกลับจากบริษัทผู้หางานก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองว่างควรออกไปหางานPast timeทำเพื่อให้มีรายได้ระหว่างนั้นผู้หางานก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานไปด้วยเผลอๆถ้าผู้หางานเรียนรู้งานไวและเก่งจริงอาจจะได้งานประจำทำที่เดียวกับงานPart timeเลยก็ได้

ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
เมื่อผู้หางานรอการตอบกลับจากบริษัทอยู่ผู้หางานก็ควรหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์ไม่ปล่อยตัวเองให้ว่างและมัวแต่กังวลว่าจะได้งานทำหรือไม่ผู้หางานอาจจะออกไปเที่ยวหรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้ช่วยพัฒนาทักษะด้านๆต่างที่จำเป็นต่อการทำงานไประหว่างที่ผู้หางานว่างการเรียนภาษาเพิ่มเติมก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ดีหลายคนไม่ให้ความสำคัญกับภาษาเพราะเห็นเป็นเรื่องยุ่งยากแต่ผู้หางานรู้ไหมว่าถ้าเราได้ภาษาเราก็สามารถเรียกเงินเดือนเพิ่มได้จากปกติหลายเท่า

อย่าเสียเวลาไปกับการรอคอยสิ่งต่างๆ

cr.www.myadroit.com

บุคลิกของผู้หางานที่โดนใจHR

หัวใจหลักของการหางานคือบุคลิกภาพ

มีบุคลิกใดบ้างที่ทำให้ผู้หางานเป็นที่สนใจจากผู้สัมภาษณ์งานและโดดเด่นกว่าผู้หางานคนอื่นวันนี้เราจะมากล่าวถึงบุคลิกภาพที่ผู้สัมภาษณ์งานให้ความสนใจเป็นพิเศษเพิ่มโอกาสในการได้หางานให้ได้งานของเรามากขึ้นมีดังต่อไปนี้ถ้าเราสามารถทำได้ครบทุกข้อเราก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงานจากผู้สัมภาษณ์งานมากกว่าผู้หางานคนอื่นมีทั้ง5หัวข้อหลักดังต่อไปนี้

ตรงต่อเวลา
สิ่งหนึ่งที่จะแสดงถึงความตั้งใจในการทำงานคือการตรงต่อเวลาโดยเฉพาะการมาสัมภาษณ์งานถ้าผู้หางานสายตั้งแต่วันที่นัดสัมภาษณ์งานแล้วละก็โอกาสที่เราจะได้รับเลือกเข้าทำงานก็จะมีน้อยตามลงไปด้วยทางที่ดีผู้หางานควรวางแผนการเดินทางให้รอบคอบควรศึกษาเส้นทางมาที่เดินบริษัทก่อนหรือวันไหนว่างก็ลองเดินทางมาที่บริษัทดูว่าใช้เวลาแค่ไหนและเดินทางโดยวิธีไหนได้บ้างและวิธีไหนเหมาะสมที่สุดแบบนี้จะทำให้ผู้หางานไม่สายอย่างแน่นอนสามารถใช้กับการมาทำงานปกติได้อีกด้วยไม่เพียงแต่การสัมภาษณ์งานเพราะถ้าเรามาทำงานสายบ่อยๆเราก็มีโอกาสที่จะถูกไล่ออกจากงานขั้นตอนปฏิบัติเมื่อได้รับเลือกเข้าทำงานถ้าบริษัทนั้นเคร่งครัดเรื่องการตรงต่อเวลาหรือบริษัทมีกฏถ้าใครมาสายไม่เกินที่กำหนดก็จะมีโบนัสให้หรืออะไรก็ว่าไปตามแต่บริษัทตั้งกฏขึ้นมาทั้งนี้การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเมื่อเราออกไปทำงานพบปะกับลูกค้าเราต้องเป็นฝ่ายไปรอลูกค้าไม่ใช่ให้ลูกค้ามารอเรานั้นแสดงถึงความนับถือและให้เกียรติลูกค้าอีกด้วย

ความพร้อม
เมื่อผู้หางานไปสัมภาษณ์งานหลายคนคงคิดว่าไปแต่ตัวกับหัวใจก็พอแล้วความจริงแล้วผิดเราจะไปสัมภาษณ์งานผู้หางานก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเบื้องต้นเผื่อเจอคำถามถ้าเราตอบได้ก็จะมีอะไรคุยไปเรื่อยๆทำให้เราดูน่าสนใจแต่ถ้าเราตอบอะไรไม่ได้เลยเราก็จะดูน่าเบื่อทำให้ผู้สัมภาษณ์ไม่อยากถามอะไรต่อทำให้เราหมดโอกาสในการเเสดงด้านที่เด่นของผู้หางานออกมาหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สัมภาษณ์สนใจในตัวผู้หางาน

การวางตัว
ถือว่าเป็นมรรยาทในสังคมทั่วไปการพูดจาการแสดงกิริยาต่างๆเราต้องปฎิบัติตัวให้เหมาะสมกับสถานที่นั้นเช่นถ้าผู้หางานไปสัมภาษณ์งานก็ไม่ควรทำสิ่งไม่สมควรเช่นการการบีบสิวหรือแคะฟันเพราะจะทำให้บุคลิกเรานั้นดูแย่ไปเลยทีเดียวหรือใช้คำหยาบคายในการตอบคำถามต่างๆก็ไม่ควรอย่างยิ่งเพราะเราไม่ได้เป็นเพื่อนกับผู้สัมภาษณ์และผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ก็มีอายุมากกว่าผู้หางานเพราะฉะนั้นควรให้เกียรติผู้สัมภาษณ์งาน

ยกตัวอย่างในสิ่งที่พูด
เมื่อเราถูกถามถึงประสบการณ์ที่เราเคยมีมาผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ต้องการให้เราตอบว่าเคยมีหรือไม่เคยเท่านั้นเขาต้องการให้ผู้หางานเล่าถึงสิ่งต่างๆเหล่านั้นที่ผู้หางานเคยทำมาด้วยเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือและเป็นเรื่องจริงเราก็ควรเล่าถึงประสบการณ์ที่เราเคยทำมาด้วยเพราะถ้าผู้สัมภาษณ์งานรู้ว่าผู้หางานคนนี้มีประสบการณ์หรือหลักฐานยืนยันว่ามีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาจริงเรายิ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงานเพราะไม่ว่าบริษัทไหนก็ต้องการผู้หางานที่มีประสบการณ์เข้าไปทำงานเพราะจะช่วยลดเวลาในการเทรนงานพนักงานและค่าใช้จ่ายในการเทรนงาน

ทัศนคติที่ดีในการทำงาน
การมีทัศนคติในการทำงานของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปมีทั้งดีและไม่ดีแต่ถ้าเราสามารถดึงด้านดีได้ออกมามากกว่าด้านไม่ดีแล้วละก็การทำงานของเราก็จะเต็มไปด้วยความสุขและทำงานได้ออกมาได้ดีตรงข้ามกับการทำงานที่เต็มไปด้วยทัศนคติในแง่ลบยิ่งทำผู้หางานก็ยิ่งเหนื่อยยิ่งเหนื่อยงานของเราก็จะออกมาไม่ดีตามไปด้วยส่วนทัศนคติในระหว่างการสัมภาษณ์งานเมื่อเราถูกถามถึงความเห็นว่าทำไมถึงอยากทำงานที่บริษัทนี้คำตอบที่ดีที่สุดคืออยากหาประสบการณ์กับบริษัทไม่ควรตอบด้วยคำตอบในเชิงลบถ้าผู้หางานอยากเข้าทำงานที่นี้จริงๆการอวยบริษัทไม่ควรมากจนเกินไปอะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดี

ชีวิตคนเรามีทางออกเสมออย่าเลือกทางออกที่หนีปัญหา
Cr. www.thaigoodview.com

ขั้นตอนปฏิบัติเมื่อได้รับเลือกเข้าทำงานแล้ว

เรียนรู้การทำงานจากเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย

กระบวนการหางานของเราได้จบลงไปแล้วตั้งแต่การส่งใบสมัครไปยังบริษัทและผ่านการสัมภาษณ์งานเรียบร้อยแล้วถึงตอนนี้เราพูดได้ว่าเราหางานประสบความสำเร็จได้รับเลือกเข้าทำงานและเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแล้วและเราต้องทำอย่างไรต่อจากนี้ไปเพื่อไม่ให้โดนไล่ออกหรือพูดอย่างสุภาพคือเชิญออกให้ไปหางานใหม่กันใหม่วุ่นวายอีกหลายคนคงสงสัยเพราะไม่เคยผ่านการทำงานมาก่อนเพราะจอดอยู่แค่การหางานหรือสัมภารณ์งานเท่านั้นการหางานไม่ใช่เรื่องยากสำหรับบางคนแต่สำหรับบางคนก็เป็นเรื่องที่ยากมากจนท้อกันไปเลยทีเดียวการหางานไม่จำเป็นต้องใช้เส้นสายใดๆเพิ่งเรามีความขยันหรือตั้งใจในการหางานไม่เลือกงานไม่ยากจนคำนี้สามารถใช้ได้ตลอดไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยดังนั้นในวันนี้เราจะมาบอกขั้นตอนปฏิบัติเมื่อเราได้รับเลือกเข้าทำงานเรียบร้อยแล้วซึ่งมีดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่1

ตรวจสุขภาพบริษัทบางบริษัทจะมีนโยบายส่งพนักงานไปตรวจร่างกายว่าเรามีสุขภาพดีหรือไม่เป็นโรคติดต่ออะไรหรือเปล่าซึ่งหากเราไม่ได้เป็นเราได้ทำงานอย่างแน่นอน

ขั้นตอนที่2

หาผู้ค้ำประกันหากตำแหน่งที่เราทำมีความสำคัญมากหรือเกี่ยวกับการดูแลเงินเราจำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันว่าเราจะไม่ทุจริตหรืออะไรก็ตามที่ทำให้บริษัทเสียหายถ้าพนักงานทำแล้วหาตัวไม่เจอผู้ค้ำประกันก็ต้องรับผิดชอบแทนนั้นเอง

ขั้นตอนที่3

ทำสัญญาการจ้างงานถือว่าเป็นขั้นตอนมาตรฐานเพราะการจ้างงานจำเป็นต้องมีสัญญาเสมอระบุอัตราค่าจ้างโบนัสหรือสวัสดิการเอาไว้ด้วยเพื่อให้พนักงานสามารถทวงถามสิทธิได้ในภายหลังนั้นเอง

ขั้นตอนที่4

ทดลองงานแม้เราจะผ่านขั้นตอนการสมัครงานมาแล้วด้วยบุคลิกภาพที่โดดเด่นโดนใจHRแต่เราก็ยังไม่ได้เป็นพนักงานเต็มตัวเราต้องผ่านขั้นตอนการทดลองงานก่อนโดยปกติแล้วจะใช้เวลา3เดือนถ้าเราผ่านเราก็จะได้เป็นพนักงานประจำ

ขั้นตอนที่5

เรียนรู้กฎระเบียบต่างๆของบริษัทมีหลายกรณีที่พนักงานโดนไล่ออกเพราะไม่ทำตามกฎระเบียบของบริษัทเช่น ห้ามเล่นอินเทอร์เน็ตระหว่างทำงาน แรกๆอาจจะโดนแค่ตักเตือนถ้าทำอีกก็อาจจะถูกพักงานและไล่ออก เป็นต้น เรียนรู้วัฒนธรรมของบริษัทวัฒนธรรมแต่ละที่จะไม่เหมือนกันเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ด้วยอย่าทำตัวเป็นแกะดำเด็ดขาดเพราะการทำงานของเราจะยากขึ้นอย่างมาก

ขั้นตอนที่6

เตรียมเครื่องแต่งกายให้พร้อมถ้าบริษัทมีเครื่องแบบเราใส่ตามนั้นถ้าไม่มีให้เราใส่ชุดที่เรียบร้อยอาจจะไม่ถึงขั้นต้องใส่สูทมาทำงานถ้าเราไม่ได้ออกไปพบลูกค้าอาจจะใส่กางเกงขายาวรองเท้าหุ้มข้อเสื้อที่ดูเรียบร้อยหน่อยไม่ใช่ว่าบริษัทไม่มีเครื่องแต่งกายก็เลยใส่ชุดตามสบายมาทำงานเพราะมันจะทำให้เราดูเป็นคนไม่ให้ความเคารพสถานที่ไปเลยเผลอๆอาจจะโดนฝ่ายบุคคลตักเตือนอีกด้วย

ขั้นตอนที่7

ตรวจสอบเวลาในการทำงาน ไม่ควรมาทำงานสายหรือเลทเด็ดขาดเพราะโบนัสและเงินพิเศษจะโดนหักตามไปด้วยถ้าเราอยากได้เงินพิเศษเราก็ต้องมาทำงานให้ตรงต่อเวลาและไม่หนีออกจากบริษัทก่อนเวลาเลิกงานยิ่งเรามาทำงานบ่อยไม่ขาดและตรงต่อเวลาเราก็มีโอกาสได้เงินพิเศษมากขึ้น

ขั้นตอนที่8

ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน การมีเพื่อนเยอะดีกว่ามีศัตรูแน่นอนยิ่งการทำงานในบริษัทที่ต้องทำงานร่วมกันแล้วละก็ยิ่งเรารู้จักคนมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งทำงานได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้นเพราะเราสามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานได้ง่ายเพราะเรารู้จักเขาเหล่านั้นแล้ว

ขั้นตอนที่9

เรียนรู้การทำงานจากหัวหน้าหรือผู้สอนงานเราให้มากที่สุดเรียนรู้การทำงานจากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อนนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพราะพวกเขาเหล่านั้นรู้ลึกและรู้จริงทำให้เราสามารถเข้าใจการทำงานได้อย่างถ่องแท้

การทำงานก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ยิ่งเราทำงานไปนานประสบการณ์เราก็จะเยอะตามเหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ยิ่งเราต่อบ่อยเรายิ่งเก่งขึ้น

CR.gmbizmagazine.com

รูปถ่ายหางานของเรานั้นดีพอหรือยัง

หางานอย่างเทพด้วยรูปถ่ายที่โดดเด่น

การถ่ายรูปหางานผู้หางานหลายคนอาจจะคิดว่าไม่ได้สำคัญอะไรแต่งตัวอะไรไปถ่ายรูปหางานก็ได้แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ถ้าเราแต่งตัวและเลือกชุดให้เหมาะสมสักนิดเราก็จะมีโอกาสได้รับเลือกเข้าทำงานมากขึ้นอย่างแน่นอนแล้วผู้หางานจะวิธีอะไรบ้างที่ทำให้รูปถ่ายของเราเป็นที่น่าสนใจมากกว่าผู้หางานคนอื่นๆมีดังต่อไปนี้สิ่งที่เราต้องคำนึงก่อนไปถ่ายรูปหางาน

ตำแหน่งงานที่เราจะไปสมัคร
ว่าเราไปหางานในตำแหน่งอะไรเช่นผู้หางานไปสมัครงานในตำแหน่งผู้จัดการหรือตำแหน่งที่ต้องมีวุฒิภาวะสูงแต่เราดันไปถ่ายรูปสมัครงานโดยใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มันก็จะทำให้เราดูไม่เป็นที่น่าเคารพซึ่งHRก็พิจารณาในจุดนี้ด้วยผู้หางานต้องแต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้นอาจจะลงทุนซื้อเสื้อผ้าดีๆมาสักชุดเพื่อใส่ไปถ่ายรูปหางานหรือจะซื้อไว้เพื่อใส่ไปในวันสัมภาษณ์งานด้วยซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานของเรามากยิ่งขึ้นส่วนถ้าเราไปสมัครงานในตำแหน่งที่จำเป็นต้องแสดงถึงการมีประสบการณ์เช่นตำแหน่งหัวหน้างานหรือหัวหน้าแผนกแต่เราใช้รูปสมัยตอนยังเรียนอยู่มันก็ไม่ควรเพราะแสดงให้เห็นว่าผู้หางานยังขาดประสบการณ์แม้กระทั่งรูปถ่ายยังไม่ใส่ใจแล้วจะสามารถดูแลลูกน้องหรือทำงานที่ต้องรับผิดชอบสูงๆได้หรือไม่ถึงแม้ว่าผู้หางานจะมีประสบการณ์ในการทำงานมาสิบปียี่สิบปีแต่ต้องไม่ลืมว่าผู้สัมภาษณ์งานหรือผู้พิจารณาใบสมัครจะพิจารณารูปถ่ายหางานเป็นสิ่งแรก

จัดการทรงผมและหน้าตาให้เรียบร้อย
หลายคนอาจะคิดว่าจะไปถ่ายรูปหางานทำไมต้องกังวลเรื่องทรงผมด้วยไม่น่าจะสำคัญอะไรแต่ความจริงแล้วทรงผมเป็นตัวบอกอะไรหลายๆอย่างถ้าผู้หางานผมรุงรังไปถ่ายรูปหางานรูปก็คงไม่ต่างจากรูปที่บัตรประชาชนหลายคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่ารูปบัตรประชาชนเป็นยังไงลองคิดดูถ้านำรูปลักษณะนั้นไปใช้หางานบริษัทก็อาจจะคิดว่าเราไม่มีความรู้หรือไม่อ่านประวัติของเราด้วยซ้ำเพราะเขาคิดว่าแม้กระทั่งผมตัวเองยังดูแลรักษาให้เรียบร้อยไม่ได้จะทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ยังไงโดยเฉพาะคุณผู้หญิงอย่าย้อมผมสีที่มันโอเวอร์จนเกินไปเช่นสีแดง สีส้ม สีเขียวบริษัทจะเข้าใจผิดคิดว่าเรามาสมัครงานผิดที่ก็เป็นไปได้เพราะผู้หางานไม่มีทางรู้ได้เลยว่าHRแต่ละบริษัทเป็นยังไงถ้าเราต้องไปสมัครงานในบริษัทใหญ่ที่มีกฏระเบียบค่อนข้างเข้มงวดเราคงผิดหวังตั้งแต่ยื่นใบสมัครเพราะฉะนั้นเราควรเตรียมเสมอเสื้อผ้าหน้าผมเอาให้ดูเรียบร้อยไว้ก่อนขาดไม่ได้ก็คือบุคลิกภาพที่ดีให้เข้าตาHRเข้าคติที่ว่ากันไว้ดีกว่าแก้นั้นเองเราจะได้ไม่มาเสียใจภายหลังว่าสาเหตุที่เราไม่ถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานไม่ใช่เพราะเรามีคุณสมบัติไม่ดีพอแต่เป็นเพราะผู้หางานใช้รูปถ่ายหางานไม่เรียบร้อยทำให้ถูกเพิกเฉยไม่เรียกไปสัมภาษณ์งาน

เลือกร้านถ่ายรูป
เกณฑ์ในการเลือกร้านถ่ายรูปมีดังนี้ไม่ควรเลือกร้านถ่ายรูปด่วนได้ภายใน10-15นาทีเด็ดขาดเพราะคุณคิดดูง่ายๆเหมือนกับเราทำงานถ้าเราทำเร็วเกินไปงานที่ได้ออกมาต้องมีข้อเสียอย่างแน่นอนเหมือนกับการถ่ายรูปด่วนวัตถุประสงค์ในการใช้แตกต่างกันเพราะฉะนั้นผู้หางานควรเลือกร้านถ่ายรูปที่เป็นสตูดิโอหรือร้านถ่ายรูปธรรมดาแต่ไม่ใช้แบบถ่ายรูปด่วนเพราะการถ่ายรูปสมัครงานเป็นเรื่องง่ายๆของร้านเหล่านี้ไปเลยร้านถ่ายรูปที่ดีก่อนการถ่ายจะมีการแต่งหน้าให้ลูกค้าก่อนเสมอโดยเฉพาะผู้หญิง(ขึ้นอยู่กับลูกค้าด้วยว่าจะให้แต่งไหท)และใช้เวลาในการปรับแต่งรูปภาพพอสมควรอย่างน้อย1-2วันเพราะว่าการปรับแต่งรูปให้ออกมาดูดีและเป็นธรรมชาติไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งถ้าทางร้านมีลูกค้าเยอะแล้วละก็เราก็ไม่ควรไปเร่งงานเพราะยิ่งเร่งเราก็ไม่ได้งานที่ดีแน่นอนถ้าลูกค้าไม่เยอะสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งคือหากผู้หางานมีสิวนิดหน่อยเราก็ให้ช่างปรับแต่งได้แต่ถ้าเรามีสิวหรือรอยแผลเป็นก็ไม่ควรให้ช่างแต่งจนแตกต่างกับตัวจริงมากเกินไปเพราะจะบริษัทสับสนเมื่อผู้หางานเข้าไปสัมภาษณ์งานว่าเป็นคนคนเดียวกันหรือไม่ยิ่งถ้าเป็นงานราชการแล้วยิ่งห้ามเข้าไปใหญ่ที่สำคัญที่สุดและในปัจจุบันเห็นนิยมทำกันมากก็คือนำรูปถ่ายไปปริ้นด้วยตัวเองเด็ดขาดเพราะคุณภาพกระดาษและเครื่องปริ้นของผู้หางานนั้นจะไม่มีที่ร้านทำให้เมื่อนำไปใช้สมัครงานจะดูไม่ดีรูปถ่ายสมัยยังเรียนหรือรับปริญญาลืมไปได้เลยไม่ควรนำมาใช้เด็ดขาดเพราะเรานำรูปไปใช้หางานไม่ได้นำไปใช้สมัครเข้าเรียนไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปใส่ชุดนักศึกษาก็ได้สิ่งสุดท้ายที่อยากฝากไว้คือไม่ควรนำรูปถ่ายที่เป็นรูปถ่ายเล่นหรือรูปที่โพสลงsocial mediaมาเป็นรูปหางานเด็ดขาดเพราะไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

ทางใดถูกทางใดผิดขึ้นอยู่กับเราที่จะเลือกทางนั้นๆ
cr.www.philosophymatters.org