นาฬิกาชีวิตสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน
มนุษย์เราล้วนเกิดมามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกันทุกคนไม่ว่าคุณจะรวยล้นฟ้าหรือจนแทบไม่มีจะกินคุณก็ไม่สามารถ
ออกจากวังวนของนาฬิกาชีวิตนี้ออกไปได้ เกิด>แก่>เจ็บ>ตาย ทุกคนต้องเผชิญสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าช้าหรือเร็วสิ่งที่สำคัญ
ก็คือคุณจะใช้เวลาที่ทุกคนได้รับมาเท่ากันทุกคนไปใช้ในการทำอะไรบ้างสิ่งนี้สำคัญในตอนนี้เราจะมากล่าวถึงวัยที่สำคัญ
ในชีวิตและมีผลต่ออนาคตของเราทุกคนวัยที่สำคัญมีอยู่สองวัยก็คือ วัยเรียนกับวัยทำงาน
วัยเรียน
วัฎจักรในวัยเรียนของทุกคนก็คือ
-สอบเข้าเพื่อให้ได้เรียนโรงเรียนที่อยากเรียน
-ทำเกรดให้ดี
-สอบเข้ามหาลัยวิทยาลัย
-ทำเกรดให้ดีเพื่อจะได้ใช้ในการหางาน
เห็นไหมว่าวัยเรียนไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงคุณก็ต้องผ่านวัฎจักรนี้แน่นอนแต่!ถ้าเราทำเกรดดีไม่ได้ละ เราอาจจะหัวไม่ดีแต่ไม่ได้ขี้เกียจ
แล้วเราจะมีสิทธิ์ยืนในสังคมหรือไม่ถ้าทำเกรดได้ไม่ดีชีวิตเราต้องจบลงเพียงเท่านี้จริงหรือไม่ ไม่เป็นความจริง
ถ้าเรามีความขยันซะอย่างไม่ว่าสิ่งต่างๆที่เราต้องเผชิญในการทำงานนั้นจะยากลำบากแค่ไหนเราก็จะผ่านมันไปได้เด็กที่คิดฆ่าตัวตายเพราะว่าสอบไม่ติดมหาลัยนั้นถือว่าเป็นเด็กที่ไม่ฉลาดเพราะคนฉลาดจริงจะรู้ว่าเรื่องสอบเข้ามหาลัยนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้นอย่าให้เพียงเรื่องสอบได้ไม่ได้มาเป็นตัวตัดสินชีวิตและจบ "นาฬิกาชีวิตของตัวเอง"
วัยทำงาน
ก้าวมาสู่ไว้ทำงานวัยทำงานคือของจริงแตกต่างจากการเรียนโดยสิ้นเชิงปัญหาที่ผู้หางานจะพบในการทำงานไม่สามารถเรียนรู้ได้
จากการเรียนแน่นอน 100 % ต้องอาศัยการเผชิญปัญหาและแก้ไขปัญหาอยู่บ่อยๆเป็นการเก็บประสบการณ์ไปพร้อมกับการ
ทำงานซึ่งหาไม่ได้จากการเรียน
วัฎจักรของการทำงานก็คือ
-หางาน
-สมัครงาน
-สัมภาษณ์งาน
-ทดลองงาน
-ทำงานจริง
-ลาออก
-เกษียณ
ทุกคนที่ก้าวเข้าสู่วัยทำงานต้องพบกับวัฎจักรนี้ช่วงที่ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อที่จะได้งานที่ต้องการจากนั้นก็แข่งขันกันทำผลงาน
เพื่อค่าตอบแทนที่จะได้รับสูงขึ้นหรือตำแหน่งหน้าที่ที่มีหน้ามีตามากขึ้นทุกสิ่งอย่างล้วนทำไปเพราะต้องการผลประโยชน์ แต่!
สิ่งหนึ่งที่คนทำงานไม่ควรลืมก็คือการเข้าร่วมสังคมมนุษย์เป็นสัตว์สังคมเพราะฉะนั้นการทำงานก็เหมือนการใช้ชีวิตนั้นเองทำงาน
เรารักงานที่ทำได้แต่เราไม่ควรรักบริษัทเพราะบริษัทไม่ได้รักเราแน่นอนเพราะว่าบริษัทมองเราเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งที่บริษัท
จ่ายเงินเดือนให้แล้วสามารถใช้งานเราได้เต็มที่ที่สุด "รักงานได้แต่อย่าทุ่มเทเต็มร้อยเก็บเงินไว้เผื่ออนาคตที่เราไม่มีทางรู้ไว้บ้าง"
อยากฝากข้อคิดดีๆไว้ให้คนที่กำลังเรียนและกำลังทำงานได้คิดไว้
"การเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะคนที่ไม่มีต้นทุนชีวิตที่ดีหรือไม่มีโชคช่วยการเรียนหนังสือเหมือนเป็นตัวรับประกันอย่างหนึ่งว่าเราจะมีงานทำมีเงินใช้"
"การทำงานเราอย่าไปคิดว่างานที่เราทำอยู่นั้นจะมั่นคงจริงๆไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกนี้วันนี้เราอาจจะได้เงินเดือนเป็นแสนแต่พรุ่งนี้เราอาจจะตกงานก็ได้ใครจะไปรู้"
นาฬิกาของทุกคนเท่ากันอยู่ที่ว่าจะใช้เวลานั้นไปกับการทำอะไร
cr. www.image.dek-d.com