การป้องกันไม่ให้เราถูกปฎิเสธใบสมัครงานถ้าเรามั่นใจว่าคุณสมบัติของเราตรงตามความต้องของบริษัทมีดังต่อไปนี้
ลายมือที่เขียนในสมัคร
ถ้าเป็นสมัครงานผ่านทางอินเทอร์เน็ตเช่นการส่งอีเมล์สมัครงานเป็นต้นซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงในการใช้ลายมือของเราเขียนได้แต่ถ้าเป็นการเขียนใบสมัครไม่มีโอกาสที่เราจะปฎิเสธได้ยกเว้นบางบริษัทที่ให้กรอกใบสมัครบนคอมพิวเตอร์
สิ่งที่เราต้องระวังในการใช้ลายมือเขียนใบสมัคร
-เขียนลายมือให้คนอื่นอ่านออกปกติเราจะเคยชินกับการเขียนให้เร็วทั้งการเรียนและการจดบันทึกแต่การเขียนใบสมัครงานนั้นต่างกันเพราะการเรียนและการจดบันทึกเป็นสิ่งที่เราใช้อ่านคนเดียวซึ่งสามารถเขียนยังไงก็ได้เพื่อให้เราอ่านออกแต่ในใบสมัครงานเราจำเป็นต้องปรับลายมือให้คนอื่นอ่านออกเพื่อไม่ให้เข้าใจข้อมูลที่เราเขียนผิดไปซึ่งผลเสียจะตกมาอยู่กับเรา
-ตั้งใจในการเขียนใบสมัครเพราะการเขียนใบสมัครต้องมีความรอบคอบสูงถ้าเกิดเขียนอะไรผิดพลาดลงไปในใบสมัครอาจจะทำให้เราเสียโอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงานเช่นเราเขียนเบอร์ติดต่อกลับผิดแค่ตัวเดียวบริษัทก็ไม่สามารถติดต่อกลับมาแจ้งเราได้แล้วว่าเราได้รับเลือกเขาทำงานหรือไม่เป็นต้นอีกทั้งการตั้งใจในการทำบางสิ่งถึงแม้สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญแต่มันแสดงออกถึงว่าเราสามารถทำสิ่งที่ใหญ่กว่าอย่างตั้งใจเป็นการแสดงออกที่ทำให้นายจ้างประทับใจ
-เวลาเขียนใบสมัคร เราไม่จำเป็นต้องรีบมากเพราะเราไม่ได้แข่งขันเขียนใบสมัครกับใครเพราะถ้าเรารีบอาจจะทำให้เราเขียนอะไรผิดพลาดและตกหล่นไปได้ถ้าเกิดเขียนอะไรผิดพลาดขึ้นมาก็ต้องมาลบซึ่งทำให้ใบสมัครงานของเราดูไม่เรียบร้อยซึ่งแสดงถึงความไม่ตั้งใจของเจ้าของใบสมัครต่อนายจ้าง
ความละเอียดในการเขียนใบสมัคร
สิ่งสำคัญในการเขียนใบสมัครอีกอย่างหนึ่งคือต้องไม่เขียนเรื่องโกหกเพราะถ้าเราเกิดถูกตรวจสอบเราจะมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารถ้าเราไม่มั่นใจว่าคุณสมบัติของเราผ่านเกณฑ์ที่บริษัทต้องการหรือเราอาจจะโทรไปสอบถามกับ HR ก่อนที่จะเขียนใบสมัคร การเขียนใบสมัครทุกคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องงานเพียงแค่กรอกข้อมูลลงไปก็เสร็จแต่ความจริงแล้วการเขียนใบสมัครมีอะไรมากกว่านั้นเพราะฉะนั้นก่อนที่จะเขียนใบสมัครเราควรอ่านใบสมัครให้รอบคอบเสียก่อนซึ่งบางบริษัทจะมีคำสั่งที่เขียนไว้ในหน้าสุดท้ายซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่อ่านกันทำให้พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดายเช่นบางบริษัทอาจจะมีคำสั่งให้เขียนข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษแต่เราไม่ได้อ่านเราจึงเขียนภาษาไทยไปเมื่อใบสมัครไปถึงบริษัทจึงถูกปฎิเสธเพราะไม่ทำตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้เป็นต้น
สัมภาษณ์งาน
การที่เราได้เข้าไปสัมภาษณ์งานนั้นเป็นสิ่งที่บอกว่าบริษัทสนใจในใบสมัครงานของเราในระดับหนึ่งทำให้เราถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานซึ่งการสัมภาษณ์งานเป็นด่านสุดท้ายก่อนที่เราจะได้รับเลือกเข้าทำงานแม้ว่าใบสมัครเราจะดีเริศหรูแค่ไหนถ้าเราไม่ผ่านก็สัมภาษณ์งานก็เท่ากับว่าเราเสียเวลาเปล่าเพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเข้าไปสัมภาษณ์งานเราควรจะเอาใบสมัครมาอ่านทบทวนอีกทีเพื่อให้ข้อมูลที่เรานำเสนอนั้นตรงกับในใบสมัครและเพื่อป้องกันการพูดผิดพูดถูกควรฝึกพูดคนเดียวไว้ด้วย
ผู้สมัครงานบางคนมีคุณสมบัติไม่ตรงตามความต้องการของบริษัทแต่กลับได้รับเลือกเข้าทำงานไม่ใช่เพราะว่าใช้เส้นสายแต่เพราะใบสมัครที่ดีมีความละเอียดรอบคอบในการจัดทำทำให้บริษัทสนใจในตัวเจ้าของใบสมัครเพราะฉะนั้นถ้าเราเขียนใบสมัครดีก็ทำให้เรามีโอกาสสูงในการได้รับเลือกเข้าทำงาน