เทคนิคการหางานของนักศึกษาจบใหม่
ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่า มีนักศึกษาจบใหม่ในระหว่างปี 2550-2559 คาดว่าจะมีประมาณ 3-4 แสนคน/ปีกันเลยทีเดียว (สถิติจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา) แต่ในขณะที่ความต้องการแรงงานในระดับปริญญาตรีในเดือนมีนาคม ปี 2555 พบว่า มีตำแหน่งงานว่างเพียง 138,450 อัตราเท่านั้น จึงทำให้มีการแข่งขันสูงขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งก็แน่นอนว่า นักศึกษาที่จบใหม่ ก็ต้องมีเป้าหมายในการทำงานกับบริษัทใหญ่ๆและมั่นคงกันทั้งนั้น วันนี้เราจึงมาแนะนำนักศึกษาจบใหม่หรือกำลังจะจบ ถึงความต้องการของบริษัทหรือนายจ้าง ว่าทางบริษัทต้องการบุคลากรแบบไหนเข้ามาทำงานในบริษัทเพื่อที่จะได้เตรียมตัวกันได้ถูก
1. ประสบการณ์การทำงาน
แน่นอนว่านักศึกษาทุกคนต้องผ่านการฝึกงานมาแล้วทั้งนั้น แต่ความแตกต่างของแต่ละคนขึ้นอยู่กับว่า เราจะใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน การฝึกงานก็เหมือนกับการแสดงฝีมือให้กับบริษัทที่เราไปฝึกงาน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่เราตั้งใจจะไปสมัครแต่แรกอยู่แล้วหรือไม่ หากช่วงที่เราฝึกงาน สามารถทำงานได้เข้าตากรรมการ ทำให้เห็นถึงศักยภาพ สิ่งนี้จะกลายมาเป็นแต้มต่อในการที่ต้องสมัครงานจริงอีกด้วย อีกสิ่งหนึ่งคือ การทำงานพาร์ทไทม์ (Part time) นอกจากจะได้มีเงินใช้ในช่วงปิดเทอมแล้ว ยังได้ประสบการณ์ในการทำงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
2. ความสามารถด้านภาษา
ทักษะด้านภาษาก็เป็นอีกสิ่งสำคัญในโลกยุคนี้ เนื่องจากสามารถใช้ในการติดต่อซื้อขายกับลูกค้าได้สะดวกและหากมีภาษาที่ 3 ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศษ หรือ ภาษาอ่านๆ ก็จะทำให้บริษัทสนใจในตัวผู้สมัครงานมากขึ้นอีกด้วย
3. การประเมินสถานการณ์ และ การแก้ไขปัญหา
แน่นอนว่านายจ้างหรือบริษัททุกที่ต้องการพนักงานที่สามารถแก้ปัญหาที่พบด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องถามสะทุกเรื่องอยู่แล้ว
4. การวางแผนงาน และ แบ่งเวลา
นอกจากจะทำงาน หรือ มีความสามารถอื่นมากมาย แต่หากไม่สามารถแบ่งเวลาได้ ก็ไม่สามารถทำงานออกมาได้ดีเช่นกัน เพราะฉะนั้นความสามารถในการแบ่งและจัดสรรเวลา เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทมองหาในตัวผู้สมัครเช่นกัน
5. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
สามารถนำไอเดียใหม่ๆมาใช้ให้ก่อประโยชน์แก่การทำงานได้ การรู้จักคิดและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่นักศึกษายังต้องพัฒนาเนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน หากมีตรงจุดนี้ ก็จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทจะนำไปพิจารณาในการรับเข้ามาทำงานด้วยเช่นกัน
6. ยอมรับความเปลี่ยนแปลงหรือทำงานอื่นหรือระบบการทำงานแบบอื่น
ทุกวันนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะในด้านเทคโนโลยีหรือในด้านการทำงาน การยอมรับในความเปลี่ยนแปลงในที่นี้หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของการทำงาน ระบบต่างๆที่ใช้ในการทำงานเพื่อให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
7. ยอมรับการตัดสินใจของผู้อื่นและให้ความร่วมมือในการทำงาน
จริงอยู่ที่ว่าบริษัทต้องการคนที่มีภาวะผู้นำ แต่ก่อนที่จะเป็นผู้นำได้ เราก็ต้องเรียนรู้ในภาวะผู้ตามมาก่อนเช่นกัน
8. ภาวะผู้นำ
คนที่มีภาวะผู้นำ นอกจากจะยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นได้ดีแล้ว ยังสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีอีกด้วย นี่จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่บริษัทมองหาคนที่มีภาวะผู้นำนี้ซึ่งสามารถผลักดันให้เป็นหัวหน้างานได้ในอนาคตอีกด้วย
9. กล้าแสดงความคิดเห็น
การแสดงความคิดเห็นมีประโยชน์ นอกจากจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิด ผิดหรือถูกมากน้อยแค่ไหน และหากมีความสามารถในด้านภาษาอังกฤษด้วยแล้วละก็ นายจ้างหรือบริษัทต่างชาติจะชอบมากเลยทีเดียว