สำหรับคนท่ไม่เคยสัมภาษณ์งานมาก่อนต้องมีความกลัวเป็นธรรมดากลัวว่าจะอะไรผิดหรือทำอะไรที่ทำให้ไม่ถูกเลือกรับเข้าทำงานจึงทำให้เกิดความประหม่ากลายเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะบางครั้งทำให้เกิดการพูดติดๆขัดๆหรือพูดอะไรไม่ออกทำให้การสัมภาษณ์งานนั้นล้มเหลวแตกต่างจากคนที่เคยสัมภาษณ์งานมาแล้วหลายๆครั้งความประหม่าและความตื่นเต้นนั้นจะหายไปเพราะเกิดความเคยชินกับการสัมภาษณ์งานแล้วและยังจับทางของผู้สัมภาษณ์ได้อีกด้วยว่าจะถามอะไรและทดสอบอะไรสำหรับผู้ที่ไม่เคยสัมภาษณ์งานมาก่อนแน่นอนว่าความกลัวที่จะผิดพลาดนั้นมีได้ทุกคนแต่ทำไมเราไม่ลองตั้งสติและมองว่ามันเป็นแค่การพูดคุยระหว่างเพื่อนกันดูละแต่ต้องตั้งอยู่บนความสุภาพด้วยนะไม่ใช่ใส่อารมณ์จนเกินไปทำให้ดูเหมือนว่าเราไม่ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ทั้งนี้เราต้องดูสถานการณ์ด้วยว่าตอนไหนควรพูดจริงจังตอนไหนควรพูดเล่นและไม่ควรพูดจนยืดยาวเกินไปเพราะจะทำให้น่าเบื่อ
เมื่อเรารู้สึกว่าเรากลัวหรือประหม่าให้เรานึกย้อนกลับไปว่าก่อนที่เราจะถึงด่านสุดท้ายคือการสัมภาษณ์งานนั้นเราผ่านอะไรมาบ้างเรียนมาหนักแค่ไหนกว่าจะจบและต้องตะเวนหางานส่งใบสมัครงานไม่รู้กี่ร้อยใบจนถูกเรียกมาสัมภาษณ์เราจะยอมแพ้หรือเหลือเพียงแค่ด่านสุดท้ายคือการสัมภาษณ์งานเท่านั้นเองเราต้องสู้ต้องพยายามสิ่งไหนที่เรากลัวขจัดมันออกไปให้หมดเหลือแต่ความกล้าและความมุ่งมั่นเท่านั้นการสัมภาษณ์งานนั้นมีอยู่หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งงานนั้นมีความสำคัญมากเพียงใดเราต้องเอาชนะและผ่านการสัมภาษณ์งานนี้ไปให้ได้ไม่ว่าจะยากสักเพียงใดแต่คงไม่ยากเกินความพยายามของเรา
การสัมภาษณ์งานแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
ผู้สัมภาษณ์1คนกับผู้ถูกสัมภาษณ์อีก1คนเป็นการสัมภาษณ์ที่นิยมอย่างมากกับงานในตำแหน่งเริ่มต้นซึ่งความน่ากลัวมีไม่มากเท่าไหร่ถ้าเราสามารถคุมสถานการณ์ได้เราก็ผ่านได้อย่างง่ายดายแต่ข้อเสียของการสัมภาษณ์แบบนี้คือมีผู้สัมภาษณ์หรือผู้ตัดสินว่าเราได้รับเลือกเข้าทำงานหรือไม่เพียงคนเดียวถ้าเกิดเขาไม่ชอบคำตอบของเราหรือมีอคติกับเราเราก็หมดโอกาสแทบจะในทันทีเพราะไม่มีใครมาเเย้งเพราะมีผู้ตัดสินเพียงคนเดียว
การสัมภาษณ์งานแบบสองต่อหนึ่งหรือสามต่อหนึ่ง
ผู้สัมภาษณ์1คนกับผู้ถูกสัมภาษณ์อีก2คนหรือ3คนเป็นการสัมภาษณ์งานในตำแหน่งที่มีการแข่งขันสูงขึ้นมาอีกเพราะว่าบริษัทจะเรียกผู้สมัครสองหรือสามคนมาพร้อมกันและตั้งคำถามเพื่อดูทัศนคติและการแก้ปัญหาเพื่อหาคนที่เหมาะสมที่สุดหรือจะเป็นผู้สัมภาษณ์2คนหรือ3คนกับผู้ถูกสัมภาษณ์อีก1คนเพื่อให้เกิดความคิดเห็นต่างๆแล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกันว่าควรรับเข้าทำงานหรือไม่เป็นข้อดีของการสัมภาษณ์แบบนี้แต่ข้อเสียก็มีคือความกดดันที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเราถูกหลายๆคำถามในเวลาเดียวกันทำให้บางคนถึงกับตอบคำถามไม่ถูกและทำให้ไม่ถูกเลือกรับเข้าทำงานก็มี
การสัมภาษณ์งานแบบสามต่อกลุ่มหรือมากกว่านั้น
มักใช้กับการสัมภาษณ์งานที่รับคนในจำนวนมากโดยเรียกผู้สมัครเข้ามาในวันเดียวกันและจัดกลุ่มเพื่อเรียกสัมภาษณ์การสัมภาษณ์แบบมีทำให้มีความประหม่าน้อยลงแต่การแข่งขันจะสูงมากยิ่งขึ้นเพราะเราต้องแสดงความสามารถให้โดดเด่นที่สุดส่วนใหญ่แล้วการสัมภาษณ์แบบนี้จะเป็นการคัดพนักงานเข้าประจำสาขาต่างๆว่าเหมาะสมกับลักษณะงานประเภทไหนมากกว่าการคัดผู้สมัครออก
ไม่ว่าเราจะกลัวประหม่าหรือสั่นแค่ไหนเพียงแค่เรามีความเป็นตัวของตัวเองและมีสติตั้งใจตอบคำถามที่ผู้สัมภาษณ์ถามไม่พูดนอกประเด็นก็จะทำให้เราได้รับเลือกเข้าเป็นหนึ่งในพนักงานอย่างแน่นอนความกลัวเกิดขึ้นได้กับทุกคนเราต้องหมั่นฝึกฝนเอาชนะความกลัวนั้นๆเพื่อให้เราเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดสู้สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้จงอย่ากลัวที่จะทำอะไรใหม่ๆเพราะนั้นจะทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น